‘ผู้กองธรรมนัส’ อ้อนชาวแม่ฮ่องสอน เลือกผู้สมัคร ส.ส.พปชร. ยกจังหวัด ลั่นแก้ปัญหาสิทธิ์ที่ดินทำกิน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจน
‘ผู้กองธรรมนัส’ อ้อนชาวแม่ฮ่องสอน เลือกผู้สมัคร ส.ส.พปชร. ยกจังหวัด ลั่นแก้ปัญหาสิทธิ์ที่ดินทำกิน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามความยากจน เปลี่ยน ส.ป.ก เป็นโฉนด เปลี่ยน คทช. เป็น ส.ป.ก.4-01 ชูเป็นเมืองอัตลักษ์ท่องเที่ยวดีงาม soft power ของไทย
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ ยังลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครส.ส.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ของพรรคฯ ได้แก่ เขต 1 นายปกรณ์ จีนาคำ เบอร์ 2 ,เขต 2 นายจำลอง ศรีสวัสดิ์ เบอร์ 10 อย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากเวลา 10.30-12.30 น. ร้อยเอกธรรมนัส ไปปราศรัยหาเสียง ณ หอประชุม โรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้แก่ นางสาวธนพร ศรีวิราช และนายปัญญา จีนาคำ ร่วมลงพื้นที่พบปะประชาชนด้วย ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่เขต 1 มาให้กำลังใจและรับฟังนโยบายของพรรคฯ อย่างเนืองแน่น
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้มาพบปะพ่อแม่พี่น้องชาวแม่ฮ่องสอนทุกท่าน ตนเองก็เป็นคนเหนือ ลูกข้าวนึ่งชาวพะเยาคนหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้ว ตนเองไม่ใช่เพิ่งมาครั้งแรก เพราะเมื่อครั้งเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2562 ก็เคยมาพบปะพ่อแม่พี่น้องเพื่อสนับสนุนคุณพ่อปัญญา จีนาคำ ให้เป็น ส.ส.มาแล้ว วันนี้ ก็มาปราศรัยสนับสนุนให้นายปกรณ์ จีนาคม หรือ แม้ว ซึ่งเป็นบุตรชายของคุณพ่อปัญญา เพื่อให้ได้เป็น ส.ส.ในพื้นที่เขต 1 นี้ต่อจากคุณพ่อปัญญา ที่ขยับไปเป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ซึ่งเราก็จะได้คนหนุ่มรุ่นใหม่มาทำงาน มาเป็นปากเป็นเสียงแทนทุกท่าน
“พ่อแม่พี่น้องครับ ชาวแม่ฮ่องสอน เป็นคนดี น่ารัก เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวมาแล้วมีความสุข ดังคำขวัญว่า ‘หมอกสามฤดู กองมูเสียดฟ้า ป่าเขียวขจี ผู้คนดี ประเพณีงาม ลือนามถิ่นบัวตอง’ ซึ่งไม่มีเมืองไหนในประเทศไหนมี 3 ฤดูเหมือนแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวดอกบัวตองขึ้นชื่อ มีธรรมชาติสวยงาม เรามีทั้งพี่น้องชาติพันธ์ ทั้งไทยใหญ่ มูเซอ และคนเมืองแท้ๆ ที่ต่างก็ร่วมกันรักษาอัตลักษณ์และประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามไว้เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สามารถผลักดันเป็นเมืองท่องเที่ยว soft power สำคัญของประเทศไทยอีกด้วย”
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสำคัญคือ พรรคฯ เรามีนโยบายแก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยใครที่มีเอกสารสิทธิ์เป็น ส.ป.ก.จะเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สร้างรายได้และประกอบอาชีพเต็มที่ ส่วนใครที่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าหรือเขตอุทยานในเอกสาร คทช.ก็จะเปลี่ยนเป็น สปก.4-01 ให้สำเร็จ เชื่อว่าจะช่วยคลายความเดือดร้อนของชาวแม่ฮ่องสอนส่วนใหญ่ที่มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินในพื้นที่ป่าและเขตอุทยานแห่งชาติ ทำให้มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และยังถูกดำเนินคดีก็มีอีกด้วย ดังนั้นเราจะช่วยพี่น้องแก้ปัญหาขัดแย้ง และจะนำไปสู่การข้ามความยากจน เพราะที่ผ่านมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังเป็นเมืองที่ ถูกจัดอันดับมีรายได้ต่อหัวของประชากรต่อปีน้อยที่สุดในประเทศไทย และน้อยที่สุดใน 8 จังหวัดภาคเหนือใช่หรือไม่ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้เราจะลืมตาอ้าปากได้อย่างไร ดังนั้นวันนี้ จึงมาบอกว่า พรรคพลังประชารัฐ จะแก้ปัญหาที่ดินทำกินดังกล่าวทันทีที่ได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ก็ขออย่าลืมไปกาบัตรสีม่วงเบอร์ 2 และ บัตรสีเขียว กาเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นรัฐบาลดูแลแก้ปัญหาให้ทันที
นอกจากนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ยังย้ำอีกว่า พรรคพลังประชารัฐ มีหลักยึดสำคัญชัดเจนคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนก้าวข้ามความยากจน เราใส่ใจและดูแลประชาชนฐานรากคือพ่อแม่พี่น้องประชาชนซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ขณะที่ ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลจะมุ่งเอาใจและดูแลกลุ่มทุนซึ่งอยู่บนสุด มีแต่มาหาเสียงเอาใจ พอได้เป็นรัฐบาลก็ลืม ทำให้กลุ่มทุนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน จึงเห็นได้ว่า ขณะนี้ประชาชนประสบปัญหา น้ำมันแพง แก๊สแพง นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จึงจะมาช่วยแบ่งเบาภาระดังกล่าว โดยลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันที ที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยลดราคาน้ำมันดีเซล 6.30 บาทต่อลิตร เบนซิน 18 บาทต่อลิตร รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ยังมีการสานต่อเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท และผู้ถือบัตรยังมีประกันชีวิตอีก 200,000 บาท ด้วย นี่คือนโยบายช่วยเหลือให้ประชาชน เพื่อเป็นครอบครัวประชารัฐที่มีความเข้มแข็งอยู่ดีกินดี
ด้านนายปกรณ์ ได้กล่าวปราศรัย ช่วงหนึ่งว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่มาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม และที่ผ่านมาจากการเดินลงพื้นที่ก็ได้รับเสียงตอบรับนโยบายของพรรคเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตรกร จะลดต้นทุนการผลิตช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต ให้พ่อแม่พี่น้องเกษตรกร ไร่ละ 2,000 บาท จำนวน 15 ไร่ อีกด้วย เรายังมีเบี้ยผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน นโยบายดูแลทุกช่วงวัย แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ รวมไปถึง 3 นโยบายสำคัญสร้างรายได้เกษตรกร คือเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกรครัวเรือนละ 30,000 บาท ปุ๋ยคนละครึ่ง คือรัฐช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนาไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ ทั้งนี้ตนเองมีความตั้งใจที่พัฒนาบ้านเมืองของเรา ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบให้สะดวกปลอดภัย มากยิ่งขึ้น มีการยกระดับบริการสาธารณสุขที่ดีมีมาตรฐาน เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนมีสุขภาพที่ดี พัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและกีฬา แม่ฮ่องสอนของเราให้เจริญก้าวหน้าในทุกมิติ
จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในพื้นที่ ว่า ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ ที่รับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือนั้น มั่นใจว่าการเลือก ส.ส.ครั้งนี้ ในส่วนแม่ฮ่องสอนเราจะสามารถได้รับชัยชนะ ทั้งสองเขต จังหวัดพะเยา ชนะทั้งสามเขต ส่วนจังหวัดอื่นก็มั่นใจจะปักหมุดได้อย่างน้อยจังหวัดละ 1 เขต แน่นอน
เวลา ประมาณ 14.30-16.00 น. ร้อยเอกธรรมนัส นำคณะไปปราศรัยหาเสียง ณ หอประชุม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 22 อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจและรับฟังนโยบายของพรรคเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ได้กล่าวทักทายพ่อแม่พี่น้องชาวอำเภอปาย และปางมะผ้า ตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียงว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดขายเป็นอัตลักษณ์ดีงาม โดยเฉพาะอำเภอปายนั้นมีชื่อเสียงมาก ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมมาท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างมาก ถือเป็นซอฟพาวเวอร์ที่ต้องสนับสนุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจสร้างรายได้ยิ่งขึ้น
ดังนั้นวันนี้ ตนเองจะมาพูดถึงนโยบายของพรรคเพื่อยกระดับชีวิตของพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ด้วยรูปแบบสัญญาประชารัฐ ที่จะขับเคลื่อน พลังคนไทย พลังเศรษฐกิจ สังคมสิ่งแวดล้อม เราจะแก้ปัญหาที่ดินทำกิน แก้ไขที่ดินเถื่อน ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยเหลือภาคเกษตรกรที่เป็นฐานราก วันนี้เราพร้อมเติมทุนให้พี่น้องเกษตรกร 30,000 บาทต่อครอบครัว เพื่อใช้ในการลงทุนค่าใช้จ่าย เราจะช่วยลดต้นทุนการผลิต ไร่ละ 2,000 บาทเป็นจำนวน 15 ไร่ เท่านั้นยังไม่พอ กรณีปุ๋ยราคาแพง
…เราจะมี ปุ๋ยคนละครึ่ง อีกด้วย และโดยเฉพาะแม่ฮ่องสอนนี้ นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินแล้ว ตนเองจะช่วยผลักดันสร้างอ่างเก็บน้ำ อย่างเต็มที่
#พรรคพลังประชารัฐ