ยูโอบี ประเทศไทย คว้า 10 รางวัลทรงเกียรติด้านตราสารหนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG

ยูโอบี ประเทศไทย คว้า 10 รางวัลทรงเกียรติด้านตราสารหนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน ESG
8 พฤษภาคม 2568 – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย คว้า 10 รางวัลอันทรงเกียรติจากนิตยสาร The Asset, The Alpha Southeast Asia และสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายตราสาร ESG และตราสารที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน(sustainability-linked bonds) ทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาค รางวัลที่ได้รับนี้สะท้อนบทบาทของธนาคาร ในฐานะผู้บุกเบิกสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนและการพัฒนาโซลูชันตราสารหนี้อย่างสร้างสรรค์ให้แก่บริษัทชั้นนำของไทย
รางวัลที่ได้รับครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อาทิ อสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง โทรคมนาคม การค้าปลีก และพลังงาน สะท้อนถึงศักยภาพของธนาคาร ในการวางกลยุทธ์ด้านสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสม
ธุรกรรมที่ได้รับรางวัลของธนาคารยูโอบี ประเทศไทยในปี 2567 ได้แก่: นิตยสาร The Asset:Thailand Best Sustainability-Linked Bond (อสังหาริมทรัพย์) จากการเป็น Sole Bookrunner และ Sole Lead Manager ของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 ชุด มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ถือเป็นหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่ออกครั้งแรกโดยบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกในประเทศไทย
Thailand Best Sustainability-Linked Bond (การขนส่ง) จากการเป็น Sole Bookrunner และ Sole Lead Manager ของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนมีผู้ค้ำประกันของบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 ชุดมูลค่ารวม 1,360 ล้านบาท ถือเป็นหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่ออกครั้งแรกโดยบริษัทในกลุ่มเดินเรือในเอเชีย
Thailand Best Sustainability Bond (โทรคมนาคม) จากการเป็น Joint Bookrunner และ Joint Lead Manager ของหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ชุดมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท ถือเป็นหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนที่ออกครั้งแรกโดยบริษัทในกลุ่มโทรคมนาคม ในประเทศไทย
Thailand Best Bond (บริษัท) จากการเป็น Joint Bookrunner และ Joint Lead Manager ของหุ้นกู้ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ชุดมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
นิตยสาร The Alpha Southeast Asia: Best Local Currency Bond Deal of the Year in Thailand 2024 จากการเป็น JointBookrunner และJoint Lead Arranger ของหุ้นกู้ของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ชุดมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
Best ESG Green Financing in Southeast Asia 2024 จากการเป็น Joint Bookrunner และ Joint Lead Arranger ของหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ชุดมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
Best Bond Deal for Retail Investors in Southeast Asia 2024 จากการเป็น Joint Bookrunner and Joint Lead Arranger ของหุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ชุดมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท
สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย: Top Underwriter of Corporate ESG Bonds in Thailand จากการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ESG มากที่สุดในประเทศไทย Leading Underwriter of Corporate ESG Bond of the Year – จากการเป็น Sole Bookrunner และ Sole Lead Manager ของหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 ชุดมูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท
Joint Underwriter of Deal of the Year – 2024 จากการเป็น Joint Bookrunner และ Joint Lead Arranger ของหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 ชุดมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท
นายพิศาล ขัตติโยทัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ Investment Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “รางวัลที่เราได้รับนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ภาคธุรกิจมีต่อ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ในการสนับสนุนการระดมทุนและการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของประเทศไทย และจะยังคงมุ่งมั่นส่งเสริมสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน และหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ภาคธุรกิจ นักลงทุน และสังคมโดยรวม”
รางวัลอันทรงเกียรติทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคนี้ สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญเชิงลึกในตลาดและความมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันทางการเงินของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ที่สร้างผลลัพธ์อย่างมีนัยสำคัญสอดคล้องกับหลักสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG)
เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี
ธนาคารยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมประเทศจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม รวมถึงสาขาในอีก 19 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ รวมทั้งสิ้นกว่า 470 แห่งทั่วโลก
นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2478 ยูโอบีเติบโตอย่างมั่นคง ผ่านกลยุทธ์การควบรวมกิจการและการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Aa1 จากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, AA- จากฟิทช์ เรทติ้งส์ และ AA- จาก S&P Global Ratings
ยูโอบีให้ความสำคัญกับการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมส่งมอบบริการทางการเงินที่เข้าใจความต้องการเฉพาะบุคคล โดยผสานข้อมูลเชิงลึก นวัตกรรม และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมผ่านโครงการด้านศิลปะ เยาวชน และการศึกษา เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกันในภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก
#Doodeevariety.com เรื่องราวดีๆที่คุณต้องติดตาม