สายเขียวเฮ! ปลดล็อกกัญชา “609 Life Goes On เปิดตำนานกัญชาไทยสู่กัญชาโลก” ชู จังหวัดเพชรบุรี แหล่งปลูกกัญชาพันธุ์ดีดั้งเดิม หนุนเกษตรกรปลูก-ผู้ประกอบการ สร้างสรรค์อาหารเพื่อสุขภาพ สร้างรายได้ยั่งยืน
สายเขียวเฮ! ปลดล็อกกัญชา “609 Life Goes On เปิดตำนานกัญชาไทยสู่กัญชาโลก” ชู จังหวัดเพชรบุรี แหล่งปลูกกัญชาพันธุ์ดีดั้งเดิม หนุนเกษตรกรปลูก-ผู้ประกอบการ สร้างสรรค์อาหารเพื่อสุขภาพ สร้างรายได้ยั่งยืน
สถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ – สยามอิมเมจ จัดกิจกรรม “609 Life Goes On เปิดตำนานกัญชาไทยสู่กัญชาโลก” ณ Waldo 18 แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี เนื่องในวันปลดล็อกกัญชาไทย คึกคัก ด้านผู้ว่าฯ เพชรบุรี เผยเป็นโอกาสดี ฟื้นตำนานแหล่งปลูกกัญชาพันธุ์ดีดั้งเดิม หนุนเกษตรกรปลูก-ผู้ประกอบการ สร้างสรรค์อาหารเพื่อสุขภาพ สร้างรายได้ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ณ อาคาร Waldo 18 แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ได้มีการจัดกิจกรรม “609 Life Goes On เปิดตำนานกัญชาไทยสู่กัญชาโลก” เนื่องในวันปลดล็อกกัญชาไทย โดยมีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสองธารา นักวิชาการ นักศึกษาสาขากัญชาศาสตร์ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น (UMT) ตลอดจนศิลปินชื่อดังและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก สนุกสนาน และผ่อนคลาย
พล.ท.สีหเดช ดีสนธิโชติ ประธานสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นนิมิตหมายอันดี เนื่องในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นวันที่ประเทศไทยปลดล็อกกัญชาเป็นครั้งแรก ซึ่งอาคาร Waldo 18 แหลมผักเบี้ย จ.เพขรบุรี นับเป็นสถานที่ตั้งของสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งเราใช้เวลานานข้ามปีในการศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์ เพราะเล็งเห็นประโยชน์และคุณค่าของกัญชา เราจึงใช้สถานที่แห่งนี้ในการเรียนรู้ ศึกษา วิจัยและพัฒนาให้ผลผลิตของกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งกว่าจะฝ่าฟันมาได้ต้องเจอทั้งระเบียบ กฎเกณฑ์ต่างๆ เราก็ผ่านมาด้วยความยากลำบาก ซึ่งยืนยันว่า เราก็ทำตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ถูกต้อง และถูกกฎหมาย และเราก็หวังว่าเป็นส่วนหนึ่งที่น่ายินดีว่าจะสร้างพืชประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทย
นอกจากนี้ เรายังมีพื้นที่ Waldo 888 มีพื้นที่กว่า 888 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองชุมพล อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ที่ได้รับการส่งเสริมจาก บีโอไอ เพื่อนำกัญชาจากต้นแบบที่ Waldo 18 แหลมผักเบี้ย เพื่อให้เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ และประชาชนที่สนใจร่วมลงทุน เพื่อสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนต่อไป
พลโท สีหเดชฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ ทางสถาบันฯ ยังได้ร่วมลงนามกับมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น (UMT) จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรกัญชาศาสตร์มาศึกษาเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้นักศึกษาที่เป็นลูกหลานเราได้นำความรู้ไปประกอบวิชาชีพปลูกกัญชาทางการแพทย์ที่สามารถสร้างอาชีพมั่นคงต่อไปในอนาคต
“ผมยินดีที่วันนี้ วันที่ 9 มิถุนายน 2565 หรือ ที่เราเรียกว่า 609 ก็ขอให้เป็นนิมิตหมายที่ดีของคนไทยที่ภูมิปัญญาของคนไทย ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ตายายของเรา ซึ่งเคยมีตำนานเล่าขาน ยุคสมัยรัชกาลที่ ๔ มีการส่งออกกัญชาไทย ณ แหลมผักเบี้ย ซึ่งในอดีตจังหวัดเพชรบุรีคือแหล่งส่ง Thai Stick กัญชาสายพันธุ์ไทยแท้ จึงหวังว่ากัญชาไทยจะได้กลับมาสร้างประโยชน์ สร้างมูลค่า ปักหมุดกัญชาไทย สร้างรายได้กับพี่น้องประชาชน เพื่อพัฒนาทางการแพทย์ เศรษฐกิจสังคมส่วนรวมและประเทศชาติต่อไป
ด้าน รศ.ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น (UMT) จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ทาง UMT มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ บริษัท สยามอิมเมจ จำกัด ณ อาคาร Waldo 18 แหลมผักเบี้ยในโอกาสที่เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรกัญชาศาสตร์ให้แก่เยาวชนและผู้สนใจให้เรียนรู้ศึกษาอย่างถูกต้อง ซึ่งวันนี้เราได้นำศึกษา 100 คน ที่ได้รับอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย โดยเริ่มเรียนตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้น 1 ปี และหวังว่าเมื่อจบการศึกษาจะเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพกัญชาศาสตร์ เพื่อนำผลผลิตต่อประเทศชาติและเป็นประโยชน์ทางการแพทย์อย่างยั่งยืน
“9 มิถุนายน ยินดีสำหรับประชาชนคนไทย ที่มีสิทธิ์ในการปลูกกัญชาในการบริโภคเพื่อสุขภาพถูกต้องตามกฎหมายและมีประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปครับ”
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า วันปลดล็อคกัญชาไทย 9 มิถุนายน 2565 นับเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรในการปลูก และผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆของจังหวัดเพชรบุรี ที่จะได้นำกัญชาไปเป็นส่วนผสมของอาหารและขนมต่างๆ ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว เช่น ขนมหม้อแกงอารมณ์ดี ซึ่งตนเองเคยรับประทานก็ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบาย ดังนั้นผลิตภัณฑ์จากต้นกัญชา สามารถนำไปประกอบเป็นส่วนผสมของอาหารได้ทั้งคาวหวาน ซึ่งเพชรบุรีถือเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารอยู่แล้วจึงเป็นโอกาสดีสำหรับประชาชนและเศรษฐกิจของจังหวัดเพชรบุรีต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ จังหวัดเพชรบุรี ยังถือเป็นแหล่งปลูกกัญชาที่มีชื่อเสียงมาแต่ตั้งเดิม เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศทึ่เหมาะสม เช่นพื้นที่แก่งกระจาน เป็นต้น โดยสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเช่น ตะนาวศรี และ อื่นๆ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปลดล็อคกัญชาดังกล่าวแล้ว ก็ยังไม่ใช่ให้อิสระ 100% ซึ่งขั้นตอนการส่งเสริมการปลูก ก็ยังต้องมีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การควบคุมดูแลจากสำนักงานเกษตรจังหวัด และคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัดตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ทางสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ ได้เปิดให้นักศึกษา นักวิชาการ และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสองธารา ประชาชนที่ลงทะเบียนร่วมงานไว้ล่วงหน้า ได้เข้าชมแปลงปลูกกัญชาระบบปิดบนอาคาร Waldo 18 เป็นกรณีพิเศษ จากนั้นยังนำนักศึกษาและนักวิชาการ ไปเยี่ยมชมพื้นที่ปลูกกัญชาทางการแพทย์ Waldo 888 มีพื้นที่กว่า 888 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองชุมพล อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี อีกด้วย
ขณะที่ในช่วงค่ำยังจัดกิจกรรมออกร้านจำหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมจากต้นกัญชา การแสดงดนตรีของเหล่าศิลปินหัวใจสีเขียว พร้อมกับการประมูลต้นกัญชา 1 ต้น จากผลผลิตของสถาบันพัฒนาส่งเสริมปลูกกัญชาทางการแพทย์ โดยผู้ชนะคือนายทนุธรรม เกียรติไพบูลย์ กรรมการ บริษัท หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด ด้วยวงเงิน 60,000 บาท เพื่อนำรายได้ไปสมทบกองทุนโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงของสถาบันฯ คนประมูลได้ช่วยเหลือสังคม ร่วมกับบริษัท ธรรมดี กรุ๊ป บริษัทสยามอิมเมจ จำกัด และวิสาหกิจชุมชนสองธารา ที่จังหวัดเพชรบุรีต่อไป