ททท. ภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกับ คลื่นความคิด Thinking Radio 96.5 FM จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถยนต์พลังงานทางเลือก “Green Road Trip ภาคกลางเที่ยวใกล้” ระหว่าง 3-5 มิ.ย.65 เส้นทาง กรุงเทพฯ – ราชบุรี – กาญจนบุรี – สุพรรณบุรี

นางสาวสุรีพร พงษ์พานิช ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)พร้อมทั้งคณะ ร่วมกับ คลื่นความคิด Thinking Radio 96.5 FM ปล่อยขบวนกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถยนต์ในรูปแบบพลังงานทางเลือก ภายใต้ชื่อ “Green Road Trip ภาคกลางเที่ยวใกล้” ระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2565 เส้นทาง กรุงเทพฯ – ราชบุรี – กาญจนบุรี – สุพรรณบุรี

เพื่อให้นักท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ด้วยแนวคิด คาราวานสีเขียว ท่องเที่ยววิถีใหม่ ดีต่อใจดีต่อโลก

โดยมีบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย (GWM) สนับสนุนรถยนต์ร่วมการเดินทาง และยังมีตัวแทนจากสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) และ มูลนิธิส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจก ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ รวมนักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรม ตามเส้นทางท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการเดินทางที่รับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม โดย ททท.มุ่งมั่นพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ นำการท่องเที่ยวไทยสู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง (High value Tourism) อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อไป

สำหรับกิจกรรมในเส้นทางกรุงเทพฯ-ราชบุรี-กาญจนบุรี ที่สำคัญได้แก่ การนำคณะนักท่องเที่ยวเช้าเยี่ยมชมฟาร์มเกษตรอินทรีย์ “ฟาร์มฝันแม่” จ.ราชบุรี ร่วมกิจกรรมพร้อมสาธิตการปรุงอาหารจากผลิตผลเกษตรอินทรีย์ และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน แบบออร์แกนิคอีกด้วย

จากนั้น นักท่องเที่ยว ยังได้เดินทางต่อไป ร่วมกิจกรรมล่องแพเปียก ที่ “บานาน่า รีสอร์ท แอนด์ สปา” จ.กาญจนบุรี ก่อนจะไปเที่ยวชมความมหัศจรรย์ถ้ำกลางป่าที่วัดถ้ำพุหว้า จ.กาญจนบุรี ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามตามธรรมชาติ

นอกจากนี้ ยังมีการจัด Dinner Talk “เที่ยวใกล้อย่างไร ให้ดีต่อใจ ดีต่อโลก” โดยนางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง, รศ.ดร. กฤตินี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ กรรมการสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (Thai Organic Consumer Association) หรือ TOCA และ พ.อ.ปณิธิ เกตุทัต มูลนิธิส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจก ดำเนินรายการโดย นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งสร้างความประทับใจอย่างมาก ที่ได้รับฟังความรู้และเพิ่มพูลประสบการณ์จากเนื้อหาสาระทั้งการท่องเที่ยวในรูปแบบรับผิดชอบต่อสังคม หลังสถานการณ์โควิด คลี่คลาย

โดยนางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ได้กล่าวว่า หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ทำให้ประชาชนทั่วไปเริ่มออกท่องเที่ยวมากขึ้น เปรียบเหมือนการได้ท่องเที่ยวแก้แค้นชดเชยที่ไม่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวช่วงมีการระบาดของโควิด-19 ก่อนหน้านี้ โดยรูปแบบการออกเดินทางท่องเที่ยวเริ่มเปลี่ยนไปจากที่เคยปฎิบัติตัวแบบ นิวนอร์มอล ก็จะกลายเป็น นอร์มอล เริ่มจากตัวเราก่อน ที่มีความมั่นใจไม่นำเชื้อโรคไปเผยแพร่ให้คนอื่น มีการเดินทางไปในที่มั่นใจว่าปลอดภัย ตรวจเอทีเคแล้วแชร์ไปในกลุ่มเพื่อนร่วมเดินทางเพื่อความโปร่งใส และออกเดินทางไปสถานที่มีมาตรฐานสาธารณสุข ที่สามารถเปิดแมสก์มากขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์เร็วๆ นี้ ก็จะมีประกาศถอดแมสก์ได้อย่างเป็นทางการในบางพื้นที่ ก่อนที่โรคโควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งจะทำให้เราท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยมากขึ้น

สำหรับการส่งเสริมท่องเที่ยวภาคกลาง 17 จังหวัด นั้น เรายังมุ่งเน้นการเดินทางที่รับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ ไปสู่ความยั่งยืน หรือ BCG และเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เป็นข้อดีให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นได้เร็วมากขึ้น เพราะประชาชนหันมาท่องเที่ยวในระยะทางใกล้ ไม่ว่าจะเป็นกาญจนบุรี ราชบุรี หรือจังหวัดอื่น ๆในภาคกลาง เราจึงพร้อมที่จะกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวถี่ ๆ เที่ยวบ่อยๆ จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวมาเที่ยว 17 จังหวัด ซึ่งเรามีการจัดหมวดหมู่การท่องเที่ยวไว้แล้ว ได้แก่ 1.การเพิ่มพลังใจด้วยศรัทธา 2.อิ่มอร่อยเพิ่มพลังกาย 3.เติมพลังใจเพิ่มพลังให้ชุมชน 4.เพิ่มพลังกายสายสปอร์ต 5.เพิ่มพลังความสร้างสรรค์ และสุดท้าย คือเพิ่มพลังชีวิตติดธรรมชาติ ทั้งหมดนี้มีในภาคกลาง และทั้งหลายทั้งปวง อยู่ภายใต้คอมเซปต์ “ เทรนด์ซีทู ภาคกลาง” ที่จะเป็นการท่องเที่ยวที่ทันสมัย เพิ่มประการณ์ใหม่ ๆ มากขึ้นให้นักท่องที่ยวหัวใจสีเขียว และเต็มไปด้วยความมีเสน่ห์ ไปเที่ยวไม่ต้องวางแผนมาก เดินทางได้เลย ไม่ต้องจองตั๋วเครื่องบิน ขับรถไปเที่ยวเองได้เลย และสนับสนุนให้เดินทางโดยรถยนต์ใช้พลังงานที่ไม่ใช่พลังงานจากฟอสซิลมากขึ้น “ยิ่งไป ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจกว่าที่เคย”

ด้าน รศ.ดร. กฤตินี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์ กรรมการสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (Thai Organic Consumer Association) หรือ TOCA ได้มาบอกเล่าให้นักท่องเที่ยวรู้จัก TOCA มากขึ้น โดยเป็นองค์กรที่มุ่งทำหน้าที่เชื่อมโยง ส่งเสริม ให้ผู้บริโภค ผู้ประกอบการ ให้มาร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ซึ่งล่าสุดมีการเปิดตัว TOCA Platform เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้าถึงสังคมอินทรีย์ง่ายมากขึ้น ขณะที่ตัวแทนมูลนิธิส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจก ได้ร่วมรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวช่วยกันลดภาวะโลกร้อน ทั้งการลดการใช้ถุงพลาสติก ลดการใช้ยานพาหนะหรือรถยนต์ ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ และหันมาปลูกต้นไม้ มีการท่องเที่ยวยั่งยืน รับผิดชอบต่อสถานที่ ไม่ก่อให้เกิดการทำลายธรรมชาติ กระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ด้วยการอุดหนุนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ชาวบ้าน และยังฝากผู้ประกอบการในชุมชน หันมาสนับสนุนชุมชน ทั้งการให้นักศึกอาชีวะมาช่วยล้างแอร์ ซื้อสินค้าชุมชนมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร เพื่อสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ เพื่อลดการซื้อจากห้างใหญ่หรือค้าส่ง ที่แพคกเกจจิ้งส่วนใหญ่ยังเป็นโฟม หรือพลาสติก เหล่านี้คือหนึ่งช่องทางที่จะช่วยกันลดภาวะโลกร้อนได้

ในส่วนของกิจกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปยังพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ชมอันซีนแห่งเมืองอู่ทอง “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” พระแกะสลักอยู่บนหน้าผาหินปูนว่ากันว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในมีพระแม่ธรณีให้ได้กราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล

จากนั้นเดินทางมาทำ workshop เรียนรู้ดูของจริงและลงมือทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ณ วิสาหกิจชุมชนต้นแจงพัฒนา ได้สร้างผลิตภัณฑ์ “ยาดมยาหม่องหัวโตป้าต้อย” ไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อสีชมพู ที่วัดเถรพลาย จ.สุพรรณบุรี เดินลอดมีดตัดหวายยักษ์ เชื่อกันว่าเป็นการตัดกรรมที่ได้ก่อเอาไว้ นอกจากนี้ ยังมีท้าวเวสสุวรรณที่ประดิษฐานอยู่หน้าเจดีย์เก่าโดยมีความแปลกที่ถือว่าไม่เหมือนใครในโลก เพราะในมือของท่านถือกระดานชนวนเรียกว่าปางสางบัญชี หรือ ที่เรียกว่าท้าวปลดหนี้ ชาวบ้านเชื่อว่าผู้ที่ได้มาบูชา กราบไหว้แล้วจะปลดเปลื้องภาระหนี้สิน สิ่งไม่ดีให้หมดไป รวมถึงหน้าที่การงานก็จะเจริญก้าวหน้า

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ นักท่องเที่ยวยังได้ไปเที่ยวชมสวนอินทผาลัมสุพรรณบุรี บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งมีการจำหน่ายทั้งต้นพันธุ์และลูกอินทผาลัมกินสด และ ยังมีอินทผลัมแปรรูป อาหารเครื่องดื่ม ขนม ของฝากจำหน่ายอีกด้วย