ททท.อีสาน จัดคาราวาน & แรลลี่รถยนต์ New Normal “เที่ยวอีสานพร้อม” ปี 2564 วันที่ 3 สกลนคร-บึงกาฬ-หนองคาย-อุดรธานี

ททท.อีสาน จัดคาราวาน & แรลลี่รถยนต์ New Normal “เที่ยวอีสานพร้อม” ปี 2564 วันที่ 3 สกลนคร-บึงกาฬ-หนองคาย-อุดรธานี

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำโดย นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ. ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดกิจกรรมคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ครั้งที่ 4 ภายใต้ชื่องาน คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal“เที่ยวอีสานพร้อม” ตอน “คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว” ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ถึง 10 ตุลาคม 2564

นำทีมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากส่วนกลาง และสมาชิกผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจาก 20 จังหวัดภาคอีสาน รวมถึงสื่อมวลชนทั้งส่วนกลาง-ส่วนภูมิภาค และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้ง 8 สำนักงานในภาคอีสาน ทำกิจกรรมคาราวาน & แรลลี่รถยนต์ New Normal “เที่ยวอีสานพร้อม” ปี 2564 ตอน “คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว” เพื่อพิชิต 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นวันที่ 3 จากกิจกรรมทั้งหมด 11 วัน 10 คืน

กิจกรรมคาราวาน & แรลลี่รถยนต์ New Normal “เที่ยวอีสานพร้อม” ปี 2564 ตอน “คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว” นอกจากจะมีการแนะนำแนวทางการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวปี 2565 ในพื้นที่ความรับผิดชอบของแต่ละจังหวัดที่คาราวานเดินทางผ่านระบบ zoom แล้ว ยังมีการปรับรูปแบบกิจกรรมใหม่ให้เหมาะสมกับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์ COVID-19 อย่างเคร่งครัดด้วย

การเดินทางของคณะคาราวานเเรลลี่ ในวันที่ 3 นี้ ภายใต้ Theme นครา 3 ธานีคือ อุดรธานี บึงกาฬและหนองคาย

โดยเริ่มออกเดินทางจากจังหวัดสกลนคร มุ่งหน้าสู่ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬน้องใหม่ เพื่อไปสักการะพระมหาธาตุติกะเจดีย์ วัดเซกาเจติยาราม เดิมทีแล้วไม่ใช่ชื่อนี้ แต่ชื่อเดิมก็คือ วัดบ้านเซกา ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อวัดเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังคงใช้ชื่อนี้ก็คือ “วัดเซกาเจติยาราม” มาโดยตลอด
มีการเริ่มสร้างวัดตั้งแต่ปี 2518 และเมื่อปี 2525 ก็มีการก่อตั้งวัดขึ้นมาโดยพระครูสันติปัญญาภรณ์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ วัดเซกาเจติยาราม เป็นพระอารามหลวงแล้ว ยังเป็นวัดประจำจังหวัดบึงกาฬอีกด้วยครับ

ณ วัดเซกาเจติยาราม ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและป่าอันอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าวัดจะเป็นพระอารามหลวงและมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับผู้คนมากขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นธรรมชาติ ยังคงมีความสงบร่มเย็นภายในต้นไม้ ป่า น้ำ และสัตว์ป่า อีกทั้งยังสวยงามประกอบไปด้วยศาสนสถานที่สำคัญ เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวท่านใด ที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดบึงกาฬ ต้องไม่พลาดที่จะมาชม ความสวยงามของวัดเซกาเจติยาราม เเห่งนี้กันครับ

จากนั้นเดินกันต่อ ไปยังศูนย์ท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านเดื่อ หมู่บ้านเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย พร้อมรับประทานอาหารพื้นถิ่น แบบ No Carbon และ New Normal

ซึ่งจุดหมายสุดท้ายในวันนี้ คือการเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้กลุ่มผ้าทอโบราณบ้านโนนกอก OTOP นวัตวิถีอันดับ 1 ของจังหวัดอุดรธานี และยังได้รับรางวัล Knowledge Based OTOP (KBO) ในการสร้างนวัตกรรมชุมชนระดับประเทศ โดยมีการย้อมผ้าที่เป็นเอกลักษณ์คือ การย้อมสีผ้าด้วยกลีบดอกบัว ดอกบัวแดงย้อมได้ถึง 3 สี เป็นสิ่งมหัศจรรย์จากสีธรรมชาติ นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สร้างความมั่งคงและยั่งยืนต่อชุมชนแห่งนี้ด้วยครับ

เมื่อเดินเยี่ยมชม ขั้นตอนการทอผ้า ย้อมสีแล้ว ก็อย่าลืมแวะเข้าไปชม ห้องจัดแสดงผ้าไทยโบรานและหมอนขิด ที่จัดแสดงผลงานต่างๆ ของทางชุมชนไว้อีกด้วยครับ

…เก็บตกการเดินทางวันนี้ กับของที่ระลึกกระบองน้ำและกระติ๊บรูปหัวใจน่ารักๆ ถูกใจผู้เข้าร่วมคณะคาราวานทุกท่านมากครับ

และมื้อค่ำกับถุงผ้าข้าวกล่อง ที่รับประทานในห้องบนโรงแรม อร่อยแบบสไตล์อีสานไฮโซ และถุงผ้า ที่มีสีสันและลวดลาย เเซ่บ…ไม่แพ้เมนูอาหารในกล่องเลยทีเดียวครับ

#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

#สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย สธทท.

#เที่ยวอีสานพร้อม #คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว

#คาราวาน&แรลลี่รถยนต์NewNormal

#คาราวานท่องเที่ยวรถยนต์พิชิต20จังหวัด

#Doodeevariety.com เรื่องราวดีๆที่อยากให้คุณติดตาม

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *