ช.ส.ท.ออนทัวร์ เยือนอุดรธานี ดินแดนแห่ง3ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม 24-27 สิงหาคม 2566

ช.ส.ท.ออนทัวร์ เยี่ยมเยือนสถานที่ท่องเที่ยว อุดรธานี ดินแดนแห่ง3ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม 24-27 สิงหาคม 2566

ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว นำโดยประธานชมรม คุณวรางคณา สุเมธวัน คณะกรรมการบริหารชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนจากกรุงเทพมหานคร เดินทางมายังจังหวัดอุดรธานี ดินแดนแห่ง3ธรรม ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม ในระหว่างวันที่24-27 สิงหาคม 2566 เพื่อเยี่ยมชม อัพเดทสถานที่ท่องเที่ยว และนำเสนอข้อมูลต่างๆที่น่าสนใจ อันเป็นประโยชน์ต่องการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี และเป็นข้อมูลให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมายังจังหวัดอุดรธานี  จากคณะสื่อมวลชน ที่ร่วมเดินทางมาในทริปครั้งนี้ครับ

…วันที่1…25 สิงหาคม 2566 (ที่ผ่านมา) คณะสื่อมวลชน ของชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เดินทางมาถึงจังหวัดอุดรธานีตั้งเเต่เช้า หลังจากเเวะรับประทานอาหารเช้า ก็ออกเดินทางกันต่อ

…โดยสถานที่เเรก ที่ทางคณะของเรา เเวะเยี่ยมชมคือ“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง” ที่นี่มีค่าธรรมเนียม เข้าชมสำหรับคนไทย30บาท คนต่างชาติ150บาท ด้วยนะครับ

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบ้านเชียง จัดแสดงหลักฐานที่ ได้จากการสำรวจขุด ค้น ที่บ้านเชียง และแหล่งโบราณคดีใกล้เคียง อันประกอบด้วยกลุ่มภาชนะดินเผา เครื่องมือ เครื่องใช้และสิ่งอื่นๆอีกมากมาย

พ.ศ.2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถได้เสด็จทอดพระเนตรแหล่งขุดค้นที่วัดโพธิ์ศรีในพร้อมกับแหล่งอื่นในบ้านเชียง และครั้งสุดท้ายปีพ.ศ. 2517-2518 กรมศิลปากรร่วมกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ได้ร่วมมือขุดค้นและหาข้อมูลใหม่เพิ่มเติม โดยเรียกโครงการนี้ว่า ” โครงการ โบราณคดีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ” พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งชาติ บ้านเชียง จึงได้เริ่มจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2518 เป็นต้นมา

ซึ่งการมาเยี่ยมชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง ในครั้งนี้ คณะของเราได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของสถานที่เเห่งนี้ วัตถุโบราณต่างๆที่ถูกขุดค้นพบ เป็นสมบัติอันทรงคุณค่า และความภาคภูมิใจ ของคนไทยทุกคนครับ

สถานที่ต่อไป ที่เราจะเดินทางไปเที่ยวชมคือ วัดสันติวนาราม หรือวัดดงไร่ วัดแห่งนี้มีพระอุโบสถ เป็นรูปดอกบัว อยู่กลางน้ำ

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่มีความสวยงาม อุโบสถจะเป็นทรงดอกบัว 24 กลีบ คณะของเราเข้าไปกราบสักการะขอพร พระประธานในพระอุโบสถ เพื่อความเป็นศิริมงคล ในการเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ภายในจังหวัดอุดรธานี ในครั้งนี้ครับ ต่อจากวัดสันติวนาราม เราไปกันต่อที่

วัดโพธิสมภรณ์ วัดแห่งนี้ เริ่มสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2449 ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

…โดย มหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) สมุหเทศาภิบาลมณฑลอุดร ได้พิจารณาเห็นว่าในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี มีเพียง “วัดมัชฌิมาวาส” วัดเดียวเท่านั้น สมควรที่จะสร้างวัดขึ้นอีกสักวัดหนึ่ง หลังจากสร้างวัดสำเร็จเสร็จสิ้น มหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) ได้นำความขึ้นกราบทูลขอชื่อต่อ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชุมพูนุท สิริวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราชเจ้าวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ ได้ทรงประทานนามว่า “วัดโพธิสมภรณ์” เพื่อให้เป็นอนุสรณ์แก่ มหาอำมาตย์ตรีพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพธิ์ เนติโพธิ์) ผู้สร้างวัดแห่งนี้

และเมื่อมาถึงจังหวัดอุดรธานี ต้องไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เป็นสถานที่นำเรื่องราว เรื่องเล่า ความเป็นมา ของจังหวัดอุดรธานี ให้กับผู้มาเยือน และนักท่องเที่ยว เหมือนได้ย้อนเวลา ไปในอดีตในขณะที่เดินเยี่ยมชม สถานที่เเห่งนี้ครับ

ตัวพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เป็นอาคาร 2 ชั้น เป็นอาคารแบบโคโลเนียลที่นำรูปแบบองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมคลาสสิกมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อน ก่อด้วยอิฐถือปูน หลังคาทรงปั้นหยา หน้าต่างโค้ง มีมุขยื่นออกมาด้านหน้าซุ้มประตู พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ถือเป็นอาคารเก่าแก่ของเมืองอุดรธานี ที่มีการปรับปรุงมาต่อเนื่อง โดยในปี 2557 เทศบาลนครอุดรธานี ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เพื่อบูรณะและพัฒนาอาคารแห่งนี้ เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ของอุดรธานี

เราไปต่อกันที่ ศาลหลักเมืองอุดรธานี หรือเรียกว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอุดรธานี เป็นศูนย์รวมความเคารพ ความศรัทธา ของชาวเมืองอุดรธานี  ศาลหลักเมืองแห่งนี้ เต็มไปด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ต่างให้ความเคารพนับถือเช่นกัน  ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อพระพุทธโพธิ์ทอง ท้าวเวสสุวรรณ

เสาหลักเมือง  สร้างด้วยไม้คูณ ยาว 5 เมตรเศษ ซึ่งจะฝังลึกลงไป 3 เมตร มีการบรรจุแผ่นยันต์และแก้วแหวนเงินทองต่างๆ จำนวนมากไว้ใต้ฐาน เพื่อเป็นสิริมงคล 

…คณะของเราก็ได้มากราบสักการะขอพร ขอโชคขอลาภ และในสิ่งที่แต่ล่ะท่านปรารถนา และปฏิบัติภารต่างๆได้สำเร็จลุล่วงครับ

…ในวันนี้คณะสื่อมวลชนของเรา  ท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี ในรูปแบบของ ธรรมะและวัฒนธรรม   ในวันพรุ่งนี้คณะของช.ส.ท. จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง พบกันใหม่ตอนหน้าครับ

#อุดรธานี เมือง3ธรรม 

# ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว 

#Mission Thailand News 

#Doodeevariety.com เรื่องราวดีๆที่อยากให้คุณติดตาม 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *